2011 World Disaster Report Focuses on Migrants

15 / 84

รายงานเรื่องภัยพิบัติโลกฉบับนี้ระบุว่า ปีที่แล้วเป็นปีที่มีมูลค่าความเสียหายจากภัยพิบัติทั่วโลกมากที่สุดในรอบ 10 ปี แม้ว่าในความเป็นจริงภัยธรรมชาติเมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้นน้อยครั้งกว่าปีก่อนๆ รายงานชี้ว่า ปี พ.ศ. 2554 เกิดภัยธรรมชาติทั้งหมด 336 ครั้ง มีมูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า 365,500 ล้านดอลล่าร์ ครึ่งหนึ่งของมูลค่าความเสียหายดังกล่าว เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว

รายงานของสมาพันธ์กาชาดสากลชิ้นนี้พบด้วยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2554 มีผู้อพยพย้ายถิ่นโดยไม่เต็มใจ จำนวนมากขึ้น อันเนื่องมาจากเหตุผลด้านความขัดแย้ง การถูกข่มเหง ภัยธรรมชาติ ความยากจนและปัญหาสิ่งแวดล้อม

คุณ Sue Le Mesurier หัวหน้าหน่วยงาน ด้านดูแลผู้อพยพย้ายถิ่นของสมาพันธ์กาชาดสากล ระบุว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้คนต้องจำใจ อพยพออกจากถิ่นฐานของตนเอง บางครั้งเป็นการอพยพตามฤดูกาล แต่บางครั้งก็เป็นการย้ายถิ่นฐานอย่างถาวร คุณ Sue Le Mesurier ยังระบุถึงประเด็นสำคัญในรายงานฉบับนี้ ว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นจำนวนมากเดินทางไปถึงถิ่นฐานใหม่ ด้วยสภาพร่างกายและจิตใจบอบช้ำ โดยเฉพาะเด็กๆที่ต้องถูกแยกออกจากพ่อแม่พี่น้อง รัฐบาลและองค์กรต่างๆในดินแดนแห่งใหม่ของพวกเขา จึงควรยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้อพยพเหล่านั้น ไม่ใช่ซ้ำเติม

ในจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว กว่า 72 ล้านคน มีเพียง 15 ล้านคนเท่านั้นที่สหประชาชาติจัดให้อยู่ในกลุ่มผู้ลี้ภัย หรือกลุ่มคนที่หลบหนีภัยสงครามและการถูกข่มเหง และแม้สงครามจะลดลงมากในช่วง 25 ปีมานี้ แต่สหประชาชาติเชื่อว่า ยังมีประชากรโลกได้รับผลกระทบจากภัยสงครามมากกว่า 1 พันล้านคน

นอกจากนี้ รายงานระบุด้วยว่าโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ต่างๆ ก็เป็นสาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนต้องอพยพ ออกจากถิ่นฐานของตนเอง รายงานชี้ว่าแต่ละปีมีประชากรโลก อย่างน้อย 15 ล้านคน ที่ต้องย้ายถิ่นเพราะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น การสร้างเขื่อน

รายงาน World Disaster Report ของ สมาพันธ์กาชาดสากลแนะนำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือ และป้องกันไม่ให้มีประชาชนต้องจำใจย้ายออกจากถิ่นฐานของตนเอง ซึ่งก็รวมถึงการมีนโยบายคนเข้าเมืองที่ยืดหยุ่น เพื่อช่วยให้คนต่างด้าว สามารถหางานทำและปรับตัวเข้ากับดินแดน หรือบ้านใหม่ของพวกเขาได้ง่ายขึ้น

15 / 84