วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นวันที่เงียบที่สุดในกรุงไคโร ตั้งแต่วันพุธตอนที่กองทัพอียิปต์เริ่มใช้กำลังเข้าสลาย กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดี โมฮัมหมัด มอรซี่ ขณะที่ผู้ประท้วงชุมนุมกันที่จัตุรัสสองแห่งในกรุงไคโร มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 800 คน ตั้งแต่เกิดความรุนแรงขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมอยู่ด้วย บรรดาผู้นำการประท้วงได้ยกเลิกการชุมนุมครั้งใหญ่สองการชุมนุม ซึ่งเดิมวางแผนว่าจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ โดยอ้างว่าทางกองทัพได้วางตัวมือปืนซุ่มยิงตามจุดต่างๆ ของเส้นทางการชุมนุมประท้วง
ในขณะเดียวกันรัฐบาลเฉพาะกาลที่ตั้งขึ้นโดยกองทัพอียิปต์ ได้จัดประชุมขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อหารือ ถึงข้อเสนอในการหาทางบีบให้กลุ่ม Muslim Brotherhood ซึ่งเป็นกลุ่มมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สลายตัว นายมอรซี่ เคยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มนี้ ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งเพื่อลงแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ว่ากลุ่ม Muslim Brotherhood ก็ยังสนับสนุนนายมอรซี่ ถึงแม้ว่าเขาจะลาออกจากกลุ่มไปแล้วก็ตาม
การใช้กำลังเข้าสลายผู้ชุมนุม ในช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ เริ่มมีผลต่อความสัมพันธ์ต่างประเทศ ระหว่างรัฐบาลเฉพาะกาลอียิปต์กับนานาชาติ ก่อนหน้านี้หลายประเทศกล้ำกลืน ยอมรับการขับไล่ผู้นำอียิปต์ที่มาจากการเลือกตั้งออกจากตำแหน่ง แต่รับไม่ได้กับการใช้กำลังต่อผู้ประท้วงของรัฐบาลอียิปต์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายนาบิล ฟาท์มี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์กล่าวปัด ท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นจากประธานาธิบดีสหรัฐนาย บารัค โอบาม่า
รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์กล่าวว่าผู้นำสหรัฐประณามเรื่องนี้ โดยเห็นว่ากองทัพอียิปต์ใช้กำลังเกินความจำเป็น และยังได้ประณามความรุนแรงตลอดเหตุการณ์ทั้งหมดโดยเกิดขึ้นจากทุกฝ่าย เขากล่าวว่าผู้นำสหรัฐกล่าวเน้นความสำคัญ ของความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์กับสหรัฐ และยังจะมุ่งมั่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์นี้ สถานการณ์ในอียิปต์ทำให้รัฐบาลหลายชาติตกอยู่ในสภาพลำบาก และไม่แน่ใจว่าจะมีปฏิกริยาอย่างไรดี แต่ว่าคุณ เฮ็บบา โมราเย็ฟ เจ้าหน้าที่วิจัยแห่ง Human Rights Watch กล่าวว่า มีสิ่งหนึ่งที่ผู้นำระดับโลกต้องลงมือ
เจ้าหน้าที่ Human Rights Watch ชี้ว่า เวลานี้เป็นนาทีที่นานาชาติจะต้องใช้อำนาจต่อรองที่มีอยู่ในมือ กับทางการอียิปต์ โดยเฉพาะกับกองทัพอียิปต์ เพราะสถานการณ์ในอียิปต์อยู่ในภาวะที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางด้านสหภาพยุโรปได้ชี้ว่าจะทำการทบทวนความสัมพันธ์กับอียิปต์อย่างเร่งด่วน ผู้นำแห่งคณะกรรมาธิการยุโรป กับผู้นำสภายุโรป ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยยาวหลายหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชี้ว่าการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิ์พื้นฐานไม่ควรถูกละเมิด ผู้นำยุโรปทั้งสองสภาแสดงความกังวล ว่าความรุนแรงในอียิปต์จะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆในทวีป
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดด้านนอกสถานกงสุลอียิปต์ ในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของลิเบีย ในจุดอื่นๆทั่วทวีป มีกลุ่มมุสลิม และผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งพากันชุมนุมต่อต้านการใช้กำลังของรัฐบาลอียิปต์ต่อประชาชน และในวันศุกร์ก่อนหน้านั้น มีผู้คนหลายร้อยคนออกไปชุมนุมกันด้านนอกสถานทูตอียิปต์ในตูนิส ขณะเดียวกันมีชาวตุรกีออกไปประท้วงในเมืองหลวงของตุรกี เพื่อแสดงแรงสนับสนุนต่อผู้ประท้วงในอียิปต์ นอกจากนี้ ยังมีชาวมุสลิมกลุ่มใหญ่ประท้วงในอินโดนีเซียและมาเลเซียอีกด้วย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอียิปต์ยุติการใช้กำลังต่อผู้ชุมนุม